สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปประเทศลาว ดังต่อไปนี้ จะพอเป็นGuideฉบับรวบรัดให้กับทุกคนที่กำลังจะไปเที่ยวหรือใครก็ตามที่สนใจนะคะ
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปประเทศลาว แป้งจี่ Fast-foodฉบับลาว
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปประเทศลาว แป้งจี่ ของลาวแท้ๆ ดูก็รู้ว่าได้อิทธิพลบาเก็ตต์(baguette) ของฝรั่งเศสมาเต็มๆ Fast-foodฉบับลาวที่หน้าตาคล้ายแซนวิชไม่มีผิดเพี้ยน ต่างก็เพียงไส้ของลาวจะใส่สารพัดและยัดลงไปในขนมปังเป็นปริมาณมาก อัดแน่นจนล้นทะลักตัวขนมปังออกมา ไส้มีหลายอย่างตั้งแต่หมูสับ หมูแดง แฮม ตับบด ไก่ทอด ไข่ดาว ผักสลัด มะเขือเทศ แตงกวา แครอท หอมหัวใหญ่ ต้นหอม ทาเนยใส่ซอสพริก มีให้เลือกทั้งก้อนเล็ก กลาง ใหญ่ ตามความพอใจของผู้กิน แค่อันเดียวก็อิ่มแปล้แทนข้าวหนึ่งมื้อได้เลยล่ะค่ะ
เฝอลาว ก๋วยเตี๋ยวใส่ซอสพริก
เฝอหรือบะหมี่ เป็นอาหารยอดนิยมที่เราทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี หาง่ายและไม่ได้กินแปลกเกินไป ในประเทศลาว เฝอมีหลายประเภท เช่น หมู ไก่ และเนื้อวัว มักจะต้มเนื้อเป็นชิ้นๆ ไม่ค่อยใส่ลูกชิ้น เหมือนก๋วยเตี๋ยวเนื้อสดบ้านเรา
แต่ผมจะกินก๋วยเตี๋ยวแบบลาว ถ้าทำพริกป่นกับน้ำปลาและน้ำตาลแบบทานที่บ้านจะมีรสชาติอะไรบ้าง? จะอร่อยต้องทุบ!!! ใช่ครับ ผมทุบขวดซอสพริก (นำเข้าจากไทย) ที่วางเป็นเครื่องปรุงไว้กลางโต๊ะ ซึ่งจะทำให้น้ำซุปมีสีแดงข้น รสชาติหวานอมเปรี้ยวก็อร่อยนะ แต่ถ้าไม่ลึกพอ ให้เสิร์ฟพร้อมพริกขี้หนูหรือถั่วฝักยาวจิ้มกะปิ ซึ่งจะวางอยู่บนโต๊ะด้วย
Drink: จิบ “ลาวเกรีย”
มีร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในเวียงจันทน์ที่ภูมิใจนำเสนอเครื่องดื่มประเภทที่มีเฉพาะที่ร้านนี้เท่านั้น ที่ทำให้เมนูอย่างไหมไทย กามิกาเซ่ ต้องชิดซ้าย….
ลาวเกรีย (Laogria) ค็อกเทลที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อร้านอาหารแห่งนี้เท่านั้น สูตรนี้คิดค้นขึ้นโดยเฉพาะแต่ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะได้มาจากแซงเกรียซึ่งเป็นเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่นจากประเทศสเปน พูดถึงแซงเกรียหลายคนคงบอกว่า “อ๋อ…. สูตรดั้งเดิมคือไวน์แดงหรือไวน์ขาวผสมกับผลไม้สด เช่น ส้ม มะนาว แอปเปิ้ล เบอร์รี่ และลูกพีช เติมความหวานด้วยน้ำผึ้งเล็กน้อย ใส่บรั่นดีหรือสุราลงไปก็ได้ สดชื่นเป็นฟอง ปิดท้ายด้วยโซดาและน้ำแข็ง กลับมาที่ลาวเกรียของเรากันดีกว่า แทนที่จะเติมผลไม้ตะวันตก เช่น เบอร์รี่ พีช หรือแอปเปิ้ล กลับเปลี่ยนเป็นผลไม้พื้นบ้านลาว เช่น กล้วย สับปะรด และมะนาวฝาน แทน เป็นการปรับตัวที่ดีครับ จิบแล้วรู้สึกสดชื่น เครื่องดื่มจะเสิร์ฟในเหยือกพร้อมช้อนสำหรับตักผลไม้ที่กองอยู่ที่ด้านล่างของถ้วย จำไม่ได้ว่าใครแนะนำมาก็ไม่พลาด เอาเป็นว่าฉันทำซ้ำ – อย่าพลาด –
จัมโบ้ทัวร์ เวียงจันทน์
รถจัมโบ้ (รถสามล้อบ้านเรา) เป็นพาหนะที่จะพาเราไปสำรวจเมืองหลวงของลาวได้ภายใน 1 วัน ฉันคิดว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมากเพราะเหมือนมาหนองคายและได้ไปเที่ยวต่างประเทศเป็นโบนัสเก๋ไก๋มาก ใช่มั้ย? หลังจากที่เรานั่งรถข้ามสะพานมิตรภาพ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองลาวได้สำเร็จ จะมีรถตู้จอดที่จุดตรวจ รถเมล์และจัมโบ้ทุกชนิดรออยู่ แค่ยืนตรงนั้นก็จะมีคนขึ้นมาถามว่าจะเช่ารถหรือเปล่า ฉันจะบอกคุณว่าทัวร์เมือง 1 วันจะพาคุณไปที่ไหน ราคา เวลา และจำนวนชั่วโมงจะตกลงกัน ทำให้เสร็จก่อนออกเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโกง!
โดยปกติรถบัสจะพาคุณไปยังสถานที่ 6 แห่ง คือ พระธาตุหลวง (สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเวียงจันทน์), ประตูชัย (อาคารที่มีลักษณะคล้ายกับ Arc de Triomphe de l’Étoile ในปารีส เพราะได้รับอิทธิพลมาจากที่นี่) และ แล้วแวะตลาดเช้า รับประทานอาหารกลางวัน เดินทางต่อไปยังวัดศรีสะเกษ หอพระแก้ว (ซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตของประเทศเรา) และสุดท้ายคือวัดศรีเมือง (วัดศักดิ์สิทธิ์ของชาวเวียงจันทน์) โดยปกติทัวร์ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง เริ่มที่จุดตรวจเวลาประมาณ 10.00 น. และสิ้นสุดที่จุดตรวจกลับถึงประเทศไทยเวลาประมาณ 15.00 น. ราคา 1 วัน (5 ชั่วโมง) ประมาณ 500-600 บาท
ถนนลอยฟ้า วังเวียง-หลวงพระบาง
บนเส้นทางจากเวียงจันทน์ไปหลวงพระบางหรือถนนหมายเลข 13 เป็นเส้นทางวิ่งบนภูเขา 13 ชั่วโมง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายและฮากปริมาณมาก (อาเจียน เป็นภาษาถิ่นอีสาน) แต่มันก็คุ้มค่าจริงๆ เชื่อฉันสิ! เส้นทางเริ่มต้นจากเวียงจันทน์ไปวังเวียงและใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ถือเป็นการแนะนำตัวแบบเบาๆ มีเนินและลำธารค่อนข้างน้อย ระหว่างนี้ก็ชื่นชมธรรมชาติสองข้างทาง ทันทีที่เราเริ่มออกจากวังเวียง อีก 8 ชั่วโมงข้างหน้าก็จะเต็มไปด้วยความสุขอันโหดร้าย
ระหว่างทางจะมีรถจอดพักเหยียดขาที่กาสี เพราะตั้งแต่กษีเป็นต้นไป รถจะค่อยๆ เริ่มไต่ขึ้นภูเขา โค้งซ้าย โค้งขวา กว่าจะรู้ตัวก็มาถึงยอดเขาแล้ว แล้วรถจะขับไปตามสันเขาที่คดเคี้ยวตลอดเส้นทาง สมกับอุปมา “ถนนลอยฟ้า” อย่างแท้จริง รถจะพาเราขึ้นไปบนภูเขาลูกแล้วลูกเล่า วิ่งลงไปปีนขึ้นไปบนยอดเขาถัดไป ตลอดสองข้างทางของถนนลอยฟ้ามีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามมาก มีทุ่งดอกบัวและดอกหญ้าหลากสีสันให้ชมเป็นระยะๆ แต่แน่นอนว่าเมื่อคุณมองลงไปด้านล่างโดยไม่ได้ตั้งใจ มันก็เป็นเหวที่แท้จริงเช่นกัน และถ้าเรามองลึกเข้าไปในป่าเราอาจเห็นชาวลาวภูเขาถือปืน AK ด้วย คุณตื่นเต้นไหม?
ธรรมชาติ วังเวียง
“วังเวียง” อดีตเมืองฐานที่ตั้งกองบินฝรั่งเศสแห่งนี้ เคยมีคนกล่าวไว้ว่าเป็นเมืองคู่แฝดเมืองปาย บ้างก็อ้างว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองลาวบ้างล่ะ จะอย่างไรก็ตามนั่นก็คงมาจากความงดงามทางธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์นั่นเอง ที่วังเวียงเราจะได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์จริงๆแบบไม่เคยสัมผัสมาก่อน ธรรมชาติทักทายคุณตั้งแต่เช้า โดยตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของหมอกขาว สายๆเราออกบริหารร่างกายด้วยการไปปีนถ้ำ เที่ยงพักกินข้าวเหนียวเติมพลังหลังพิงต้นไม้ข้างลากูนสีเขียวมรกตแถมด้วยการเล่นน้ำแหวกว่ายในลากูนพอเป็นพิธี บ่ายคล้อยได้เวลาไปล่องห่วงยางแม่น้ำซอง กิจกรรมสุดฮิตของวังเวียง ตกเย็นมาเดินเล่นทานข้าวในเมืองภายใต้ผืนฟ้าดวงดาวระยิบระยับนับล้านดวง แล้วก็เข้านอนอย่างมีความสุข
สุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมที่วัดเชียงทอง
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปประเทศลาว จุดสิ้นสุดของถนนศรีสะวงศ์วงศ์อยู่ที่จุดแม่น้ำสายหลักสองสาย แม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน (แม่น้ำปากคาน) มาบรรจบกันที่นี่ ซึ่งเป็นที่ตั้งจุดสุดยอดสถาปัตยกรรมล้านช้าง “วัดเซียงทอง” วัดเซียงทอง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยเชษฐาธิราช มีอุโบสถ (จำลอง) รูปทรงคล้ายหลังคาปีก ซ้อนกัน 3 ชั้น เป็นศิลปะล้านช้างที่สวยงามและสวยงามที่สุดในลาว ด้านบนของซิมประดับด้วยคอร์ฟาส 17 อัน บ่งบอกว่าเป็นวัดที่กษัตริย์สร้างขึ้น เมื่อชื่นชมงานศิลปะภายนอกอาคาร ควรไปนั่งชมความงามของสถาปัตยกรรมภายใน ซึ่งประกอบด้วยลายฉลุปิดทองที่ประตู และจิตรกรรมฝาผนังไหลรสเป็นเรื่องเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านลาว
ภายในอาณาบริเวณของวัด ยังมีสถาปัตยกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกด้วย เช่นโรงเมี่ยนโกศ หรือพระที่นั่งราชรถ พระม่าน และพระนอนที่มีผนังสีชมพูบานเย็นประดับด้วยกระเบื้องสีบอกเล่าเรื่องราวทางศาสนา นิทานพื้นบ้านและวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาง ลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของกระเป๋าดินสอ ผ้าทอ และของที่ระลึกของหลวงพระบาง